Total Pageviews

Thursday 22 December 2011

เทคนิคการนำเสนอ

 เทคนิคการนำเสนอ
สรุปทดสอบย่อยครั้งที่ 1
1.    ปัจจุบันการนำเสนอได้เข้ามามีบทบาทกับมนุษย์ด้านใดบ้าง
        ก.    การเรียน การทำธุรกิจการค้า                             ข.    การฝึกอบรม  การหาประสบการณ์
        ค.    การทำวิจัย การทดลอง                                       ง.    การแสวงหาความรู้ การศึกษาและปฏิบัติ
2.    เทคนิค เป็นคำทับศัพท์ที่มาจากภาษาอังกฤษ มีความหมายอย่างไร
        ก.    วิธีการ กลวิธี ศิลปะ                                            ข.    หลักการ สาธิต สรุป
        ค.    เสนอ คำสั่ง ความเห็น                                       ง.    ตอบคำถาม ญัตติ พาไปข้างหน้า
3.    วิธีการนำเสนองานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผ่านการพิจารณา มีความหมายสอดคล้องกับข้อใด
        ก.    การนำเสนอ                                                         ข.    เทคนิคการนำเสนอ
        ค.    ไปข้างหน้า                                                           ง.    ความเห็น
4.    เป็นประสบการณ์ที่เกิดจากการพบเห็น แตะต้อง สัมผัส และเกิดความเข้าใจด้วยตนเอง/เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีความหมายสอดคล้องกับข้อใด
        ก.    ประสบการณ์ทางตรง                                        ข.    ประสบการณ์ทางอ้อม
        ค.    ประสบการณ์จากการเรียนด้วยตนเอง            ง.    ประสบการณ์จากการฝึกฝน
5.    เป็นการนำความรู้และประสบการณ์แต่ละศาสตร์มาจัดเข้าเป็นกลุ่มเล็กลงมา แต่มีรายละเอียดลึกซึ้งมากขึ้น มีความหมายสอดคล้องกับข้อใด
        ก.    ศาสตร์                                                                   ข.    วิทยาการ
        ค.    การนำเสนอ                                                         ง.    วิทยาศาสตร์
6.    ข้อใดมีความหมายสอดคล้องกับลักษณะของเทคนิคการนำเสนอ
        ก.    การจัดระเบียบในการสื่อสาร
        ข.    การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้
        ค.    การนำเนื้อหาที่ต้องการมาจัดเป็นหมวดหมู่
        ง.    ถูกต้องทุกข้อ
7.    ข้อใดไม่ใช่การนำเสนอโดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาช่วย
        ก.    คอมพิวเตอร์                                                         ข.    การใช้เครื่องฉายข้ามศีรษะ
        ค.    โปสเตอร์                                                               ง.    วีดิทัศน์
8.    ข้อใดไม่ใช่แนวคิดในการนำเสนอสมัยใหม่มักยึดหลักการอะไร
        ก.    การทำจิตใจ กาย อารมณ์ รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
        ข.    จัดกิจกรรมเพื่อให้มีการฝึกฝนและการแสดงออกทางอารมณ์
        ค.    พัฒนาประสบการณ์โดยใช้สื่อ ภาพ เสียง
        ง.    การแสวงหาความรู้และประสบการณ์
9.    ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของการนำเสนอ
        ก.    เป็นเครื่องมือของนักบริหาร/นักการตลาด
        ข.    ทำให้เกิดประโยชน์และผลกำไรเพิ่มขึ้น
        ค.    สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของอย่างเป็นรูปธรรม
        ง.    การใช้สื่อประกอบการนำเสนอ
10.  หัวข้อสำคัญอะไรที่นำมาใช้ในการอบรม ประชุม สัมมนา สรุปและนำเสนองาน
        ก.    การประชุม สัมมนา                                           ข.    เทคนิคการนำเสนอ
        ค.    การสร้างความน่าเชื่อถือ                                    ง.    ทำให้เกิดความสามัคคี
เฉลยบทที่ 1

1. ก
2. ก
3. 
4.  
5. ก
6. ง
7. ค
8.  
9. ง
10. ข






บทที่ 2  
หลักการในการนำเสนอ
จงเลือกคำตอบข้อที่ถูกที่สุด
1.             ข้อใดคือการจัดรูปแบบการนำเสนอ
        ก.    แบบหลักเหตุและผล  แบบเล่าเรื่องราว แบบเป็นทางการ
        ข.    แบบหลักเหตุและผล แบบผู้นำเสนอ แบบสื่อและข้อมูล
        ค.    แบบเล่าเรื่องราว แบบสรุป แบบผสม
        ง.    แบบเป็นทางการ แบบเล่าเรื่อง แบบสมมติ
2.    ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของการนำเสนอ
        ก.    ผู้นำเสนอ                                                              ข.    ผู้รับฟังการนำเสนอ
        ค.    สื่อและข้อมูลที่ใช้ในการนำเสนอ                   ง.    การสาธิตการนำเสนอ
3.    ข้อใดไม่ใช่การแบ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอ
        ก.    เพื่อให้ความรู้                                                       ข.    เพื่อสร้างความสามัคคี
        ค.    เพื่อชักจูงใจ                                                          ง.    เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
4.    รูปแบบการนำเสนอสำหรับบุคคลเฉพาะกลุ่ม แบ่งวัตถุประสงค์ในการนำเสนอหมายถึงข้อใด
        ก.    เพื่อให้ข่าวสารข้อมูลใหม่ ๆ                             ข.    เพื่อชักจูงใจ
        ค.    เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ                                      ง.    เพื่อกระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้น
5.    ข้อมูลข้อใดซึ่งไม่ใช่ความรู้ที่สำคัญสามารถค้นหาได้จากแหล่งใด  
        ก.    ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนร่วมงาน                                ข.    หนังสือ นิตยสาร บทความ หนังสือพิมพ์
        ค.    งานวิจัย ข้อมูลจากสื่อสารสนเทศ                    ง.    ประสบการณ์ รายงาน เรื่องเล่า
6.    ข้อใดคือหลักการนำเสนอที่มีประสิทธิภาพ
        ก.    การเขียนแผนการนำเสนอ  การรวบรวมข้อมูล
        ข.    ผลิตสื่อและโสตทัศนูปกรณ์ประกอบการนำเสนอ
        ค.    การทดสอบการนำเสนอ
        ง.    ถูกต้องทุกข้อ
7.             ข้อใดไม่ใช่หลักการการใช้จิตวิทยา
        ก.    หลักการให้ทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการนำเสนอ
        ข.    หลักความเชื่อมั่นในตนเอง
        ค.    หลักความแตกต่างระหว่างบุคคล
        ง.    หลักการเร้าความสนใจ
8.    ข้อใดไม่ใช่การประเมินผล ติดตาม และปรับปรุงเทคนิคการนำเสนอ
        ก.    การเตรียมรูปแบบการวัดผล ประเมินผล
        ข.    การประเมินผลการนำเสนอ
        ค.    การติดตามผล
        ง.    การปรับปรุงการนำเสนอ
9.    ข้อใดคือขั้นตอนการเตรียมการนำเสนออันดับแรก
        ก.    การสร้างรายการข้อมูลส่วนตัว                         ข.    การลำดับเนื้อหาก่อน หลัง
        ค.    การค้นคว้าหาข้อมูล                                            ง.    การเตรียมข้อมูล สถานที่ อุปกรณ์
10.  การเลือกสื่อในการนำเสนอให้เหมาะสมประกอบด้วยปัจจัยอะไรบ้าง
        ก.    เนื้อหาที่นำเสนอ สถานที่นำเสนอและการประเมินผล
        ข.    ระยะเวลาและงบประมาณที่นำเสนอ
        ค.    ประเภทของผู้รับฟังและการใช้สื่อของผู้นำเสนอ
        ง.    ถูกต้องทุกข้อ
11.  ข้อใดไม่ใช่เนื้อหาในการนำเสนอ
        ก.    ประเด็นเรื่อง                                                        ข.    การตั้งคำถาม
        ค.    ตัวอย่างประกอบ                                                 ง.    การเชื่อมโยงไปสู่ประเด็นใหม่
12.  ข้อใดเป็นการกล่าวสรุป
        ก.    การทบทวน สรุปเนื้อหา การชักจูงให้ลงมือปฏิบัติ
        ข.    การตั้งคำถาม การให้คำแนะนำ
        ค.    การให้คำสัญญา การใช้คำคม
        ง.    การยกตัวอย่าง
เฉลยบทที่ 2

1. ก
2.  
3.  
4. ค
5. ง
6.  
7. ข
8. ก
9. ค
10. ง
11. ข
12. ง






บทที่ 3  
จิตวิทยาในการนำเสนอ
จงเลือกคำตอบข้อที่ถูกที่สุด
1.             ข้อใดไม่ใช่บุคคลมีความแตกต่างกันทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
        ก.    รูปร่าง หน้าตา สีผิว ท่าทาง รสนิยม นิสัย
        ข.    บุคลิกภาพ ความสามารถ ความถนัด
        ค.    ความสนใจ ความต้องการ
        ง.    ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์  ความสมัครใจ
2.    ข้อใดไม่ใช่ความแตกต่างระหว่างบุคคลมีผลต่อการนำเสนอในด้านอะไร
        ก.    ความแตกต่างของแต่ละบุคคล
        ข.    ใช้ในการวางแผนการนำเสนอกับบุคคลแต่ละประเภท
        ค.    เตรียมความพร้อมสำหรับการตอบข้อซักถามจากผู้ฟัง
        ง.    ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์
3.    ลักษณะรวมของบุคคลที่เป็นผลรวมจากลักษณะทางร่างกาย อารมณ์ การปรับตัวและความสามารถทางสติปัญญา... มีความหมายสอดคล้องกับข้อใด
        ก.    บุคลิกภาพของบุคคล                                          ข.    ความแตกต่างระหว่างบุคคล
        ค.    ความสามารถเฉพาะบุคคล                                ง.    ความถนัดแต่ละบุคคล
4.    ปัจจัยข้อใดที่ทำให้บุคคลแตกต่างกัน
        ก.    สภาพทางภูมิศาสตร์ของแต่ละท้องถิ่น          ข.    การอบรมเลี้ยงดูภายในครอบครัว
        ค.    พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม                                      ง.    เอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล
5.    ข้อใดไม่ใช่พันธุกรรม
        ก.    เชื้อชาติ                                                                 ข.    อัตราการเจริญเติบโต
        ค.    เอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล                                ง.    ประสบการณ์
6.    ลักษณะของสิ่งแวดล้อมข้อใดที่ทำให้บุคคลมีความแตกต่างกัน
        ก.    การอบรมเลี้ยงดูภายในครอบครัว                    ข.    ฐานะทางเศรษฐกิจ
        ค.    พื้นฐานการศึกษา                                                ง.    ถูกต้องทุกข้อ
7.    ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์ขั้นใดที่กล่าวถึง ความต้องการมีเกียรติ ศักดิ์ศรีในสังคม
        ก.    ขั้นที่ 1                                                                   ข.    ขั้นที่ 2
        ค.    ขั้นที่ 3                                                                   ง.    ขั้นที่ 4
8.    นายเศรษฐชัยมีความต้องการให้สุขภาพอนามัยแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่เป็นโรคภัยแสดงว่านายเศรษฐชัยมีปฏิสัมพันธ์กับลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์ข้อใด
        ก.    ความต้องการด้านสรีระ                                     ข.    ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย
        ค.    ความต้องการทางสังคม                                     ง.    ความต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
9.    ช่วงความสนใจดีเยี่ยมของมนุษย์ระหว่างช่วงเวลานานเท่าใด
        ก.    3 24 วินาที                                                        ข.    5 8 วินาที
        ค.    9 12  วินาที                                                       ง.    13 16  วินาที
10.  ปัจจัยความสนใจที่มีต่อการฟังข้อใดที่เรียงลำดับความสำคัญที่ 1
        ก.    ภาษาที่ง่าย และชัดเจน                                      ข.    หัวข้อใหญ่
        ค.    การจัดระเบียบความดี                                         ง.    บุคลิกภาพของผู้พูด
11.  ความใกล้ชิดประกอบด้วยอะไรบ้าง
        ก.    เวลา สถานที่ ผลประโยชน์/ความรู้สึก           ข.    อารมณ์  ความสนใจ ความต้องการ
        ค.    ไมตรีจิต สถานที่ บุคคล                                     ง.    ผลประโยชน์ จิตใจ สถานที่

เฉลยบทที่ 3

1. ง
2. ง
3. ก
4. ค
5. ง
6.  
7. ง
8. ก
9. ข
10. ก
11. ก







7 comments:

  1. ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาททางด้านงานพิมพ์ โดยใช้ในการสร้างและออกแบบสิ่งพิมพ์และจัดพิมพ์งานได้ในทันที ซึ่งช่วยให้เราสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

    ReplyDelete
  2. สื่อสิ่งพิมพ์เป็นสื่อมวลชนที่มีประวัติความเป็นมายาวนานที่สุดในทุกสื่อมวลชน กล่าวเฉพาะสื่อประเภทหนังสือพิมพ์ในไทยนั้นมีประวัติที่น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เพราะได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นมาของการรับเทคโนโลยีการพิมพ์จากมิชชันนารีชาวตะวันตกที่เข้ามาเผยแผ่คริสตศาสนา การต่อสู้ต่ออำนาจเผด็จการทหารเพื่อสิทธิการรับรู้ของคนในสังคมไทย “การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์” เล่มนี้มุ่งนำเสนอเนื้อหาความรู้ ความเข้าใจ และให้เห็นทักษะเกี่ยวกับการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อการประชาสัมพันธ์ การโฆษณา จึงให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งพิมพ์ทุกประเภท

    ReplyDelete
  3. ความหมายของสื่อสิ่งพิมพ์
    พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายคำที่เกี่ยวกับ“สื่อสิ่งพิมพ์”ไว้ว่า“สิ่งพิมพ์ หมายถึง สมุด แผ่นกระดาษ หรือวัตถุใด ๆ ที่พิมพ์ขึ้น รวมตลอดทั้งบทเพลง แผนที่ แผนผัง แผนภาพ ภาพวาด ภาพระบายสี ใบประกาศ แผ่นเสียง หรือสิ่งอื่นใดอันมีลักษณะเช่นเดียวกัน”“สื่อ หมายถึง ก. ทำการติดต่อให้ถึงกัน ชักนำให้รู้จักกัน น. ผู้หรือสิ่งที่ทำการติดต่อให้ถึงกัน หรือชักนำให้รู้จักกัน”“พิมพ์ หมายถึง ก. ถ่ายแบบ, ใช้เครื่องจักรกดตัวหนังสือหรือภาพ เป็นต้นให้ติดบนวัตถุ เช่น แผ่นกระดาษ ผ้า ทำให้เป็นตัวหนังสือหรือรูปรอยอย่างใด ๆ โดยการกดหรือการใช้พิมพ์หิน เครื่องกล วิธีเคมี หรือวิธีอื่นใด อันอาจให้เกิดเป็นสิ่งพิมพ์ขึ้นหลายสำเนา น. รูป , รูปร่าง, ร่างกาย, แบบ”ดังนั้น “สื่อสิ่งพิมพ์” จึงมีความหมายว่า “สิ่งที่พิมพ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแผ่นกระดาษหรือวัตถุใด ๆ ด้วยวิธีการต่าง ๆ อันเกิดเป็นชิ้นงานที่มีลักษณะเหมือน ต้นฉบับขึ้นหลายสำเนาในปริมาณมากเพื่อเป็นสิ่งที่ทำการติดต่อ หรือชักนำให้บุคคลอื่นได้เห็นหรือทราบ ข้อความต่าง ๆ”

    ReplyDelete
  4. ประเภทของสื่อสิ่งพิมพ์
    สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือ
    - หนังสือสารคดี ตำรา แบบเรียน เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่แสดงเนื้อหาวิชาการในศาสตร์ความรู้ต่าง ๆ เพื่อสื่อให้ผู้อ่าน เข้าใจความหมาย ด้วยความรู้ที่เป็นจริง จึงเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่เน้นความรู้อย่างถูกต้อง
    - หนังสือบันเทิงคดีเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตขึ้นโดยใช้เรื่องราวสมมติ เพื่อให้ผู้อ่านได้รับควา เพลิดเพลิน สนุกสนาน มักมีขนาดเล็ก เรียกว่า หนังสือฉบับกระเป๋า หรือ Pocket Book ได้

    ReplyDelete
  5. สื่อสิ่งพิมพ์” จึงมีความหมายว่า “สิ่งที่พิมพ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแผ่นกระดาษหรือวัตถุใด ๆ ด้วยวิธีการต่าง ๆ อันเกิดเป็นชิ้นงานที่มีลักษณะเหมือน ต้นฉบับขึ้นหลายสำเนาในปริมาณมากเพื่อเป็นสิ่งที่ทำการติดต่อ หรือชักนำให้บุคคลอื่นได้เห็นหรือทราบ ข้อความต่าง ๆ”

    ReplyDelete
  6. ความหมายของสื่อสิ่งพิมพ์
    พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายคำที่เกี่ยวกับ“สื่อสิ่งพิมพ์”ไว้ว่า“สิ่งพิมพ์ หมายถึง สมุด แผ่นกระดาษ หรือวัตถุใด ๆ ที่พิมพ์ขึ้น รวมตลอดทั้งบทเพลง แผนที่ แผนผัง แผนภาพ ภาพวาด ภาพระบายสี ใบประกาศ แผ่นเสียง หรือสิ่งอื่นใดอันมีลักษณะเช่นเดียวกัน”“สื่อ หมายถึง ก. ทำการติดต่อให้ถึงกัน ชักนำให้รู้จักกัน น. ผู้หรือสิ่งที่ทำการติดต่อให้ถึงกัน

    ReplyDelete
  7. การถ่ายภาพการพิมพ์
    เป็นการถ่ายต้นฉบับลงฟิล์ม สำหรับต้นฉบับภาพลายเส้น และต้นฉบับตัวหนังสือการถ่ายลงฟิล์มแบบปกติ แต่สำหรับต้นฉบับภาพฮาล์ฟโทน จะใช้เม็ดสกรีนและมุมของเม็ดสกรีน เพื่อแสดงสีต่างๆ

    ReplyDelete