ชุดที่ 1 เรื่องความรู้พื้นฐานของการตลาดเพื่อการส่งออก
1. การตลาดเพื่อการส่งออกปัจจุบันแตกต่างจากอดีต เพราะ
ตลาดเพื่อการส่งออกในอดีตเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เป็นกิจกรรมที่ จำกัดอยู่ในวงแคบ ๆ เพราะช่องทางและโอกาสทางการตลาดมีอยู่ไม่มากนักการศึกษาเกี่ยวกับการตลาดเพื่อการส่งออกจึงเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น แต่เมื่อเวลาผ่านมาถึงยุคโลกาภิวัตน์เช่นทุกวันนี้ ธุรกิจเพื่อการส่งออกก็เป็นธุรกิจหนึ่งที่ได้รับความสนใจ มีผู้คนมากมายอยากจะเข้ามาสู่ธุรกิจนี้ มองเห็นธุรกิจนี้เป็นช่องทางการทำกำไร มีสภาพการแข่งขันชิงดีกันอย่างดุเดือดเข้มข้น ผู้ที่ทำธุรกิจด้านนี้อยู่แล้วและผู้ที่จะเข้ามาสู่ธุรกิจนี้จำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม เพื่อปรับตัวให้อยู่รอดได้ และมีความมั่นคงในระยะยาว
2. จงอธิบายความหมายต่อไปนี้
1. การตลาดเพื่อส่งออก (Export Marketing) หมายถึง เป็นการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจเหมือนกัน เพียงแต่สินค้าที่ขายนั้นส่งออกไปขายให้แก่ผู้ซื้อหรือผู้ใช้ในอีกประเทศหนึ่งหรือหลายประเทศ ซึ่งพฤติกรรมของผู้ซื้อหรือความต้องการของตลาดในกรณีของสินค้าส่งออกมักจะมีความแตกต่างออกไปจากพฤติกรรมของผู้ซื้อที่อยู่ภายในประเทศไทยดังนั้นความสำเร็จของวงการตลาดเพื่อการส่งออกจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ ประกอบกัน
2. ผู้ผลิตสินค้าเพื่อส่งออก หมายถึง เป็นธุรกิจระหว่างประเทศที่มีขนาดและขอบเขตการประกอบการแตกต่างกันตั้งแต่กิจการส่งออกขนาดเล็กในรูปบริษัทการค้า (Trading Company) บริษัทที่ทำธุรกิจด้านการผลิตเพื่อการส่งออก (Manufacturer on Export Goods) หรือเป็นบริษัทข้ามชาติ (Multinational Corporation) ที่มีขอบเขตของการทำธุรกิจ เครือข่ายกิจการกว้างขวางและกระจายอยู่ในหลายประเทศ
3. กิจกรรมทางการตลาดเพื่อการส่งออก ประกอบด้วย การวิเคราะห์ช่องทางการจำหน่ายและการเลือกช่องทางการจำหน่ายที่เหมาะสม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์เพื่อการส่งออก การนำเทคนิคการหาตลาดมาใช้ในธุรกิจการคิดต้นทุนและการกำหนดราคาสินค้าเพื่อการส่งออก ตลอดจนกิจการส่งเสริมการตลาดเพื่อการส่งออกในต่างประเทศ
3. ลักษณะที่สำคัญของตลาดต่างประเทศมี 3 ประเภท ดังนี้
1. การจัดการเกี่ยวกับตลาดต่างประเทศ
2. ผู้ดำเนินการ
3. รูปแบบของกิจกรรมการตลาดในต่างประเทศ
4. การตลาดส่งออกแบบบังเอิญ (Casual or Accidential Exporting) หมายถึง
กิจกรรมการตลาดระหว่างประเทศที่ผู้ดำเนินกิจกรรมทางการตลาดมิได้คาดหมายล่วงหน้า หรือเตรียมการจัดการไว้ก่อน ลูกค้าในตลาดต่างประเทศเป็นผู้เข้ามาสั่งซื้อสินค้าออกไปเอง ซึ่งอาจจะมีจำนวนไม่มากในแต่ละครั้ง และไม่บ่อยครั้ง ผู้ดำเนินกิจกรรมการตลาดส่งออกแบบนี้อาจจะไม่ถือว่าตลาดต่างประเทศเป็นตลาดในเป้าหมายของกิจการและมิได้ให้ความสำคัญเชิงนโยบายบางกิจกรรมจัดรวมกิจกรรมดังกล่าวอยู่ในกิจกรรมการตลาดภายในประเทศด้วยซ้ำ
ในบางกรณีผู้ดำเนินกิจกรรมการตลาดแบบนี้ไม่ได้ให้การส่งเสริมหรือสนใจที่จะส่งออกเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ติดตามลูกค้าให้กลับมาหาตนอีก
5. การตลาดส่งออกแบบกระตุ้นเร้า (Active Exporting) หมายถึง
กิจกรรมทางการตลาดที่มุ่งให้ความสำคัญ กำหนดไว้เป็นนโยบายของกิจการที่จะหาทางชักชวนผู้ซื้อจาก
ต่างประเทศ มีการเสาะแสวงหาตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง ทรัพยากรต่าง ๆ ภายในกิจการจัดสรรมาเพื่อการนี้มีการกำหนดโครงสร้างองค์กรเป็นฝ่ายงานเฉพาะ เพื่อรับผิดชอบดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือว่าจ้างบุคคลภายนอกดำเนินงานทางการตลาดต่างประเทศแทนตน
6. เป้าหมายที่นักการตลาดเพื่อการส่งออกมักจะกำหนดมี 3 เป้าหมาย ได้แก่
1. ผลกำไร (Profits)
2. ความเจริญเติบโตและความอยู่รอดของธุรกิจ (Growth and Survival)
3. เป็นส่วนหนึ่งที่สังคมยอมรับ (Good Citizen)
7. แนวคิดการตลาดแบบมวลชน (Mass Marketing) นับวันจะหมดไปจากการตลาดเพื่อการส่งออกเพราะ
การผลิตสินค้าอย่างเดียวใช้ราคาเดียวโฆษณา และส่งเสริมการตลาดแบบเดียว และวางจำหน่ายกระจายไปทั่วโลกเป็นไปได้ยาก การตลาดต่างประเทศจะเป็นตลาดแบบแบ่งส่วนตลาด (Marketing Segmentation) ที่ต้องเจาะลึกลงไปถึงท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่งเฉพาะภูมิภาค
8. ผลดีที่จะได้จากการที่ผู้บริหารงานการตลาดส่งออกเป็นผู้คล่องตัว คือ
ผู้บริหารงานการตลาดต่างประเทศต้องมีความคล่องตัวสูงมาก เลือกปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสภาพ
ตลาด และควรเป็นการรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้ามากกว่าการหากำไรระยะสั้น และควรหาพันธมิตรทางธุรกิจแทนการแข่งขันกันตลอดเวลา ความร่วมมือจะทำให้เกิดความสะดวกคล่องตัวและมีประสิทธิผลมากกว่า
(จาก การตลาดเพื่อการส่งออก สนพ . บริษัทพัฒนาวิชาการ (2535) จำกัด)
No comments:
Post a Comment